เทนฮากคนที่9!พลิกปูมผลงาน8กุนซือดัตช์ในพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมหรือว่าย่ำแย่
-
- Posts: 403
- Joined: Fri Apr 29, 2022 1:19 pm
เทนฮากคนที่9!พลิกปูมผลงาน8กุนซือดัตช์ในพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมหรือว่าย่ำแย่
เอริค เทน ฮาก นับเป็นกุนซือชาวดัตช์รายที่สองของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อจาก หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งถูกว่าจ้างให้เข้ามากอบกู้พา ปีศาจแดง กลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่เช่นกัน
แต่หากจะนับรวมนายใหญ่ชาวเมืองกังหันลมทั้งหมดก่อนหน้านี้ที่เคยรับงานคุมทีมลูกหนังใน พรีเมียร์ลีก โค้ชทีม อาแจ็กซ์ ก็ถือเป็นรายที่ 9
แน่นอนว่า เทน ฮาก หนีไม่พ้นโดนตั้งคำถามว่าเขาจะประสบความสำเร็จกับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด จริงหรือเพราะนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ กุนซือชื่อดังหลายรายล้วนแต่ตกม้าตายกับ โรงละครแห่งความฝัน ด้วยกันทั้งนั้น
อย่างไรก็ดี ก่อนจะได้รู้คำตอบว่ากุนซือวัย 52 ปีจะสานงานแทน ราล์ฟ รังนิก ได้ดีร้ายขนาดไหน เราไปย้อนความหลังดู 8 ผู้จัดการทีมชาวฮอลแลนด์ก่อนหน้านี้ที่เคยสัมผัสกับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก มาก่อนดีกว่าว่าแต่ละรายมีผลงานดีแย่ขนาดไหน
1.รุด กุลลิท
เชลซี (ผู้เล่นผู้จัดการทีม) 1996-98 , นิวคาสเซิ่ล 1998-99
เกม : 104 ,ชนะ 41, เสมอ 26, แพ้ 37 เรตชนะ : 39%
เจ้าของฉายา "หัวงูเก็งก็อง" คือนายใหญ่ชาวดัตช์รายแรกในสังเวียนแข้ง พรีเมียร์ลีก แถมยังได้ชื่อว่าเป็นโค้ชผิวสีคนแรกด้วยที่ได้แชมป์ เอฟเอคัพ ในปี 1997
อย่างไรก็ดี ในซีซั่นถัดมาซึ่ง สิงห์บลูส์ รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงอยู่แท้ๆ กุลลิท ก็ถูกปลดอย่างน่าฉงนโดยประธานสโมสร เคน เบทส์ ระบุว่าเขา "เย่อหยิ่ง" มากเกินไป
และในเวลาต่อมา กุลลิท ก็ประสบกับหายนะในการคุมทีม สาลิกาดง เนื่องจากเขามีปัญหาไม่ลงรอยกับนักเตะหลายรายโดยเฉพาะอย่างยิ่งขาใหญ่นาม อลัน เชียเรอร์ และหนีไม่พ้นต้องลาออกหลังคุมทีมแพ้คารังให้กับ ซันเดอร์แลนด์ อริหมายเลขหนึ่งของ เดอะ แม็กพายส์
บทสรุป : ล้มเหลว
2.มาร์ติน โยล
สเปอร์ส 2004-07 , ฟูแล่ม 2011-13
เกม : 202 , ชนะ 75, เสมอ 51, แพ้ 76 เรตชนะ : 37%
ในการรับงานคุมทีม ไก่เดือยทอง โยล ส่อแววว่าจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเนื่องจากเขาได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนตั้งแต่เดือนที่สองเท่านั้น
แต่ในที่สุด เขาก็พาทีมจบอันดับห้าสองปีติด แถมคุมทีมเสียโควต้าฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ให้กับ อาร์เซน่อล ในเกมสุดท้ายของซีซั่นต่อมาอีกต่างหาก
ยิ่งไปกว่านั้น หลังพาทีมออกสตาร์ตได้อย่างเลวร้าย โยล ก็ถูกตะเพิดในระหว่างซีซั่น 2007/08
อย่างไรก็ดี อีกสี่ปีต่อมาเขาได้งานกับสโมสรในลอนดอนอีกรายเมื่อ เจ้าสัวน้อย แต่งตั้งให้เขาเป็นผู้จัดการทีมโดยกุนซือดัตช์พาทีมจบอันดับครึ่งบนของตาราง และอันดับ 12 ในซีซั่นต่อมา
บทสรุป :ล้มเหลว
3.กุส ฮิดดิ้ง
เชลซี (ขัดตาทัพ) 2009 ,2015-16
เกม : 34 ,ชนะ 18, เสมอ 12, แพ้ 4 เรตชนะ : 53%
โรมัน อบราโมวิช สร้างความตกตะลึงด้วยการดึง ฮิดดิ้ง มาคุมทีมถึงสองครั้งสองคราหลังปลด หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ในปี 2009 และ โชเซ่ มูรินโญ่ ในปี 2015
ในซีซั่นแรกของกุนซือจอมเก๋า เขาพา สิงห์บลูส์ คว้าอันดับสาม และโชคร้ายที่คุมตกรอบฟุตบอล แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยพิษสงของ บาร์เซโลน่า แต่ก็พาทีมหยิบแชมป์ เอฟเอคัพ ได้ อีกทั้งเศรษฐีลอนดอนแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นตลอดทั้งซีซั่น
จากนั้นในวาระที่สอง ฮิดดิ้ง ซึ่งเข้ามากอบกู้ทีมแทน "สเปเชี่ยลวัน" ยังทำหน้าที่ได้อย่างน่ายกนิ้วให้ด้วยการพาทีมกระโดดขึ้นไปจบซีซั่นในอันดับกลางตารางสูงกว่าตอนที่เขากลับมารับงานกับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หกอันดับด้วยกัน
บทสรุป : ยอดเยี่ยม
4.เรเน่ มิวเลนสตีน
ฟูแล่ม 2013-14
เกม : 13, ชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 9 เรตชนะ :23%
หลังจากรับบทผู้ช่วยโค้ชทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มิวเลนสตีน ก็ปรารถนาได้งานคุมทีมเป็นของตัวเอง
และในฐานะผู้ช่วยผู้จัดการทีม เจ้าสัวน้อย มิวเลนสตีน ก็ได้ขยับขึ้นมารับงานแทน โยล เพื่อนร่วมชาติที่โดนเด้งในปี 2013
แต่สุดท้ายเขาก็อยู่ในตำแหน่งไม่จบซีซั่นเนื่องจากพาทีมหล่นไปรั้งอันดับบ๊วยของตาราง
จากผลงานดังกล่าว ฟูแล่ม จึงหนีไม่พ้นต้องตกชั้นไปจนได้ในยุคของ เฟลิกซ์ มากัธ นายใหญ่คนที่สามของซีซั่นที่สโมสรแต่งตั้งให้คุมทีม
บทสรุป : ล้มเหลว
5.โรนัลด์ คูมัน
เซาธ์แฮมป์ตัน 2014-16, เอฟเวอร์ตัน 2016-17
เกม :123, ชนะ 55, เสมอ 27, แพ้ 41 เรตชนะ : 45%
ตำนานดาวดังทีม บาร์เซโลน่า ถูกคาดหมายว่าจะประสบความสำเร็จตอนที่ได้รับการแต่งตั้งให้กุมบังเหียน เดอะ เซนต์ส ระหว่างปี 2014-16
และทั้งๆที่ทีม นักบุญ ในยุคนั้นเสียนักเตะฝีเท้าดีที่พากันย้ายสังกัดมากมาย แต่พวกเขาสร้างผลงานยอดเยี่ยมจบอันดับเจ็ด และหกได้ในยุคของนายใหญ่ดัตช์
ฉะนั้นแล้ว คูมัน จึงได้งานชิ้นที่ใหญ่ขึ้นด้วยการเป็นผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน ซึ่งมีเงินให้ใช้จ่ายโดยที่เขาเซ็นสัญญาคว้า ดาวีย์ คลาสสเซ่น มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ตลอดจนนักเตะอีกหลายราย
และในซีซั่นแรกกับทีม ท๊อฟฟี่ คูมัน พาทีมคว้าอันดับลงเล่นฟุตบอล ยูโรปาลีก รอบคัดเลือกได้ แต่เขาโดนไล่ออกในซีซั่นต่อมาเนื่องจากทีมลูกอมหล่นไปอยู่ในโซนตกชั้น
กระนั้นก็ดี คูมัน ยังขายออกและได้ตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติฮอลแลนด์แทนที่ หลุยส์ ฟาน กัล หลังจบศึก ฟุตบอลโลก ปลายปีนี้ที่กาตาร์
บทสรุป : ล้มเหลว
6.หลุยส์ ฟาน กัล
แมนฯ ยูไนเต็ด 2014-16
เกม : 76 ,ชนะ 39,เสมอ 19, แพ้ 18 เรตชนะ : 51%
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า แอลวีจี เป็นนายใหญ่ดัตช์รายแรกของ ผีแดง และเขาก่อวีรกรรมเอาไว้หลายชิ้นอาทิลืมชื่อนักเตะโดยเรียก คริส สมอลลิ่ง ว่า ไมค์ สมอลลิ่ง ในระหว่างการแถลงข่าว
สำหรับผลงานการคุมทีมแห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฟาน กัล พา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าอันดับสี่ และห้า รวมทั้งได้แชมป์ เอฟเอคัพ
ถึงกระนั้น สไตล์การคุมทีมที่ชวนให้น่าง่วงหงาวหาวนอนของเขาไม่อาจเอาชนะใจแฟนบอล ผีแดง ได้
เท่านั้นไม่พอ หลังจาก เทน ฮาก ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ฟาน กัล ยังออกโรงสะกิดให้โค้ช อาแจ็กซ์ ปฏิเสธข้อเสนอจาก โรงละครแห่งความฝัน ด้วยโดยโน้มน้าวว่าให้เลือกทีมฟุตบอล ไม่ใช่ทีมที่เน้นธุรกิจเป็นหลัก
บทสรุป : ล้มเหลว
7.ดิ๊ก อัดโวคาท
ซันเดอร์แลนด์ 2015
เกม : 17, ชนะ 3, เสมอ 6, แพ้ 8 เรตชนะ : 18%
แม้จะมีผลงานคุมทีมชนะแค่ 18% แต่เขาก็พา แมวดำ อยู่รอดในลีกสูงสุดเมื่อปี 2015 ได้สำเร็จ
ได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมแบบชั่วคราวในตอนแรก และพาทีมเก็บสามแต้มเต็มจาก นิวคาสเซิ่ล ทีมคู่แค้นได้ด้วยการคว้าชัย 1-0
เท่านั้นไม่พอ เขายังพาทีมพิชิต เอฟเวอร์ตัน และเสมอกับ อาร์เซน่อล ได้ก่อนประกาศรีไทร์หลังพาทีมอยู่รอดปลอดภัย
อย่างไรก็ดี ซีซั่นถัดมาเขาเปลี่ยนใจกลับมากุมบังเหียน แบล็คแคตส์ ต่อด้วยการเซ็นสัญญากันหนึ่งปี แต่น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะทีมอีสานของอังกฤษออกสตาร์ตได้อย่างเลวร้าย และหล่นไปอยู่ในโซนท้ายตารางกระทั่งเขาตัดสินใจลาออกจนได้
บทสรุป : ล้มเหลว
8.แฟร้งค์ เดอ บัวร์
คริสตัล พาเลซ 2017
เกม : 4, ชนะ 0, เสมอ 0, แพ้ 4 เรตชนะ :0%
ไม่มีใครปฏิเสธว่า เดอ บัวร์ เป็นพ่อค้าแข้งชั้นยอด แต่ไม่ใช่แน่ในฐานะผู้จัดการทีมใน พรีเมียร์ลีก กับ อินทรีผงาดฟ้า ซึ่งสิ้นสุดลงในเวลาอันรวดเร็ว และเลวร้ายอย่างหนัก
เดอ บัวร์ จรดปากกากับทีมลูกหนังของลอนดอนสามปี แต่นั่งเก้าอี้ได้แค่ 10 สัปดาห์เท่านั้นจากการคุมทีมรวมสี่นัด
และตลอดทั้งสี่นัดของเขา ดิ อีเกิ้ลส์ เก็บแต้มไม่ได้เลยแม้แต่แต้มเดียว
แน่นอนว่าเขาพาทีมชนะ อิปสวิช ในศึก ลีกคัพ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้เขารอดพ้นจากการถูกอัปเปหิโดยมี รอย ฮ็อดจ์สัน เข้ามารับงานแทน
บทสรุป : ล้มเหลว