รอนนี่ จ่อคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7
-
- Posts: 403
- Joined: Fri Apr 29, 2022 1:19 pm
รอนนี่ จ่อคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7
ถือเป็นสกอร์ที่ขาดลอยเกินคาด สำหรับครึ่งทางแรก(2 เซสชั่นแรก) ของการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ ณ สังเวียนครูซิเบิลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
เมื่อ "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ออกนำ "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 4 ของโลกจากชาติเดียวกันไปไกลสุดกู่ถึง 12-5 เฟรม
ตามสถิติ ตั้งแต่ศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก ใช้ระบบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ 18 ใน 35 เฟรม(ใครถึง 18 เฟรมก่อนเป็นผู้ชนะ) เมื่อปี 1980 เป็นต้นมา
สกอร์ที่ รอนนี่ นำ จัดด์ ห่างถึง 12-5 เฟรม คือผลการแข่งขันในช่วงครึ่งทางแรก ที่ห่างกันมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ร่วมกับอีก 8 ครั้งก่อนหน้านี้ ซึ่งประกอบด้วย
ชิงแชมป์โลก1983 สตีฟ เดวิส(อังกฤษ) นำ คลิฟ ธอร์เบิร์น(แคนาดา) 12-5 เฟรม (เดวิส ชนะ 18-6)
ชิงแชมป์โลก 1984 สตีฟ เดวิส(อังกฤษ) นำ จิมมี่ ไวท์(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (เดวิส ชนะ 18-16)
ชิงแชมป์โลก 1995 สตีเฟ่น เฮนดรี้(สกอตแลนด์) นำ ไนเจล บอนด์(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (เฮนดรี้ ชนะ18-9)
ชิงแชมป์โลก 2006 แกรม ด็อตต์(สกอตแลนด์) นำ ปีเตอร์ เอ็ปดอน(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (ด็อตต์ ชนะ 18-14)
ชิงแชมป์โลก 2007 จอห์น ฮิกกินส์(สกอตแลนด์) นำ มาร์ค เซลบี้(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (ฮิกกินส์ ชนะ 18-13)
ชิงแชมป์โลก 2008 รอนนี่ โอซุลลิแวน(อังกฤษ) นำ อาลี คาร์เตอร์(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (รอนนี่ ชนะ 18-8)
ชิงแชมป์โลก 2009 จอห์น ฮิกกินส์(สกอตแลนด์) นำ ฌอน เมอร์ฟี่(อังกฤษ) 12-5 เฟรม (ฮิกกินส์ ชนะ 18-9 เฟรม)
และชิงแชมป์โลก 2019 จัดด์ ทรัมป์(อังกฤษ) นำ จอห์น ฮิกกินส์(สกอตแลนด์) 12-5 เฟรม (ทรัมป์ ชนะ 18-9 เฟรม)
จะเห็นได้ว่า 8 ครั้งที่ผ่านมา ใครที่ตามหลังในวันแรก 5-12 เฟรม ไม่เคยมีใครพลิกสถานการณ์กลับมาชนะและคว้าแชมป์โลกในวันถัดไปได้เลย
จึงกล่าวได้ว่าโอกาสที่ รอนนี่ โอซัลลิแวน จะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 พร้อมกับสร้างสถิติผงาดแชมป์โลกมากที่สุดเทียบเท่ากับ "มัจจุราชผมทอง" สตีเฟ่น เฮนดรี้ ตำนานสอยคิวชาวสกอต เป็นไปได้สูงเลยทีเดียว
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า จัดด์ ทรัมป์ ที่ตามหลังในวันแรก 7 เฟรม จะสร้างปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ด้วยการพลิกกลับมาคว้าแชมป์โลกคราวนี้ได้หรือไม่
สำหรับสกอร์การแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบชิงชนะเลิศ ที่นำห่างในช่วงครึ่งทางแรกขาดลอยที่สุด นับตั้งแต่ใช้ระบบการแข่งขัน 18 ใน 35 เฟรมเมื่อปี 1980 เป็นต้นมา ได้เกิดขึ้นในศึกชิงแชมป์โลก 1989
ครั้งนั้น “เทพบุตรคิวทอง” สตีฟ เดวิส(อังกฤษ) นำ จอห์น แพร์ร็อต จากชาติเดียวกัน 15-2 เฟรม ก่อนจะเอาชนะไปในที่สุด 18-3 เฟรม ซึ่งสกอร์นี้ นับเป็นผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศที่ขาดลอยที่สุดอีกด้วย
ส่วนอันดับ 2 เกิดขึ้นในศึกชิงแชมป์โลก 1993 เมื่อ “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้(สกอตแลนด์) นำ จิมมี่ ไวท์(อังกฤษ)ในวันแรก 13-4 เฟรม และเอาชนะไปได้ในที่สุด 18-5 เฟรม